"ภควัต พิสุทธิพันธุ์"ผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจหลักทรัพย์ ลูกค้ารายย่อย บล.ซีจีเอสซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) กล่าวกับ "ทันหุ้น" ว่า "ILM" หนึ่งในหุ้นที่ได้อานิสงค์บวกจากการกลับมาเปิดประเทศตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและราคาสินค้าการเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ราคาหุ้น ILM ยังคง laggard หุ้นในกลุ่ม Home improvement ตัวอื่นๆพอสมควร (YTD ILM +4.3% vs DOHOME +12.9%, GLOBAL +14.3% และ HMPRO +13.8% ตามลำดับ) ส่งผลให้ ILM มีความน่าสนใจลงทุน

- คาดกำไรไตรมาส 1/65 น่าจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ มีปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายในช่วง 2 เดือนแรกของปีเติบโตเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 10% ตามการฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภคหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และมีการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่น รวมถึงได้อานิสงค์บวกจากโครงการช้อปดีมีคืน จึงคาดว่า SSSG จะเติบโต Double digits YoY

ส่วนรายได้ค่าเช่ามีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังไม่มีการให้ส่วนลดแก่ผู้เช่า และ/หรือให้ส่วนลดที่น้อยมากในบางแห่ง รวมไปถึงการรับรู้รายได้ค่าเช่าจาก COM7 เข้ามา ขณะเดียวกันคาดว่า gross margin จะเพิ่มสูงขึ้นหลังมีการปรับราคาขายสินค้าขึ้นบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และมีการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง

ปี 65 ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายเติบโต Double digits YoY ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และไม่มีการปิดสาขาเหมือนในปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าตัวเลข SSSG น่าจะเติบโตเป็น 2 หลัก นอกจากนั้นคาดว่ารายได้ค่าเช่า (Rental Income) มีแนวโน้มเติบโตดี YoY เช่นกัน หลังมีการส่งมอบพื้นที่ให้กับทาง COM7 ครบถ้วนตามที่ตกลงไว้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา และได้อานิสงค์บวกจากค่าเช่าพื้นที่ในส่วนอื่นๆ ฟื้นตัวขึ้นหลังมีการคลายล็อกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ส่วนช่องทาง Online ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตไว้ไม่ต่ำกว่า 10% YoY เพราะมีการเพิ่มรายการสินค้าและจับมือกับพันธมิตร รวมถึงการทำ promotion เพิ่มเติม พร้อมตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้ผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 20% ในปี 67 (vs 12.8% ในปี 64) ขณะที่ธุรกิจด้าน OME มีแนวโน้มขยายตัวดีมาก โดยน่าจะมีรายได้โต double digits YoY เช่นกัน และตั้งเป้าเพิ่มเครือข่ายแฟรนไชส์รายใหม่ปีละ 1 ประเทศ ซึ่งล่าสุดกำลังจะมีสาขาใหม่ที่บรูไน

ราคาหุ้นมี upside เพิ่มเติมจากที่บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรในโรงงานผลิตและศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงปรับปรุงสาขาเดิม นอกจากนั้นเตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมที่ลาดกระบัง ในรูปแบบ mixed-use

ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ 2565PE 16.8 เท่า (EPS 1.15 บาท/หุ้น) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นในกลุ่ม home improvement ที่ 26.1 เท่า (DOHOME 24.6x, GLOBAL 28.4x และ HMPRO 34.4x ตามลำดับ)

กราฟราคาหุ้นมีสัญญาซื้อทาง technical โดยมีแนวรับ 19.70 บาท แนวต้านระยะสั้น 20.70 - 21.10 บาท และแนวต้านถัดไป 22.50 บาท (Stop loss ถ้าหลุด 19.00 บาท)

ที่มา: thunhoon