INDEX LIVING MALL, THAILAND’S NO.1 HOME FURNISHINGS AND DECORATIVE RETAIL CHAIN STORE

บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) กางแผน INDEX NEXTPERIENCE 2022 (อินเด็กซ์ เน็กซ์พีเรียนซ์ 2022) สร้างประสบการณ์ช้อปใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค Next Normal ชูกลยุทธ์ Collaboration Marketing ผนึกกำลังพันธมิตรทางธุรกิจ เปิดไตรมาสแรก ประเดิมจับมือ ‘วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา’ ปั้นแบรนด์ ‘DREAMIA’ หมอนไฮบริด 7 นวัตกรรม จากอเมริกา รองรับความต้องการตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ คาดผลักดันยอดขายกลุ่มสินค้าที่นอนและเครื่องนอนเติบโต 20% พร้อมเผยแผนขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ รุกสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ต่อยอดความเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของตกแต่งบ้านแบบครบวงจร เดินหน้าสร้างความยั่งยืนทุกมิติด้วยแนวคิด ‘Sustainable Living for Future Lifestyle’ ตั้งเป้าปี 2022 ยอดขายเติบโต 10% กวาดรายได้ 8,200 ล้านบาท

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2022 ยังคงเป็นปีที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยการระบาดของโรคโควิด-19 ถึงแม้สถานการณ์จะไม่รุนแรงเหมือนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็ตาม เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจท่ามกลางความท้าทายดังกล่าว รวมถึงเพื่อตอบรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภค อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในฐานะของผู้นำตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของตกแต่งบ้าน จึงได้กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2022 ภายใต้วิสัยทัศน์ INDEX NEXTPERIENCE 2022 ที่มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าในทุกมิติตอบรับกับอินไซต์ของผู้บริโภคยุค Next Normal ทั้งช่องทางออฟไลน์&ออนไลน์ ด้วยการนำเทคโนโลยี AI และ Big Data มารวบรวม วิเคราะห์ตัวตน ความชอบ พฤติกรรมการช้อปของลูกค้า เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบ Personalization ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น รวมถึงการ สร้างสรรค์ New Store Format เพื่อประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีของลูกค้า ทั้งการจัดดิสเพลย์สินค้าแต่ละแคทติกอรี่ให้แตกต่างและโดดเด่น ผสานความร่วมมือจากร้านค้าผู้เช่าพื้นที่ด้วยสินค้าและบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการ รวมถึงเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการขายที่สร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้าภายในสาขาต่างๆ มากขึ้น

ชูกลยุทธ์ Collaboration ผนึกกำลังทางธุรกิจ ประเดิมจับมือ ‘วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา’

เปิดตัวแบรนด์ ‘DREAMIA’ หมอนไฮบริด ผสาน 7 นวัตกรรม เจาะตลาดเพื่อสุขภาพ และเพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ INDEX NEXTPERIENCE 2022 ในครั้งนี้ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ยังได้นำกลยุทธ์ Collaboration Marketing ผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า โดยในไตรมาสแรกนี้ได้ประเดิมความร่วมมือในรูปแบบ Collaboration กับ คุณวู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา ในการร่วมสร้างแบรนด์ “DREAMIA” หมอนไฮบริด เพื่อรองรับตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังเป็นการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าที่นอนและเครื่องนอน ของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ให้หลากหลาย ซึ่งในปี 2021 กลุ่มสินค้าดังกล่าว มีอัตราการเติบโตถึง 16 % โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่ลูกค้าให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งการนอนหลับถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม ทั้งนี้ ข้อมูลจากการสำรวจ Super Poll เกี่ยวกับการนอนหลับของคนไทยทั่วประเทศ 1,109 ตัวอย่าง (ณ กันยายน 2564) พบว่า30-40 % ของประชากรไทยหรือราว 19 ล้านคนต้องเผชิญปัญหานอนไม่หลับ โดยระบุสาเหตุจากที่รองนอน ฟูก และหมอน ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการนอนถึง 96.5%

“การเปิดตัวหมอนไฮบริดแบรนด์ DREAMIA ในครั้งนี้ ได้ร่วมกับ คุณวู้ดดี้-วุฒิธร ซึ่งนำประสบการณ์จากการใช้งานจริง มาร่วมกันเฟ้นหาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ตอบโจทย์กับผู้ที่มีปัญหาจากการนอน อาทิ ภาวะออฟฟิศซินโดรม ปัญหาระบบภายในร่างกายไม่สมดุล ฯลฯ โดยหมอน DREAMIA นำเสนอความแตกต่างด้วยการนำ 7 นวัตกรรมจากประเทศสหรัฐอเมริกามาใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อสร้างมิติใหม่แห่งการนอนแบบ All in one ได้แก่ Softcell Construction ให้ความนุ่มสบายรองรับศีรษะด้วยเส้นใยขนเป็ดเทียม, Elongated Softcell ให้ทุกสัมผัสการนอนเป็นไปอย่างราบลื่นในทุกองศา, ผ้าหุ้มหมอน Tencel ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตจากเซลลูโลสของเปลือกไม้ ให้เนื้อสัมผัสที่ละเอียดนุ่มเรียบลื่น, MEMORY FOAM ช่วยกระจายน้ำหนักของศีรษะและปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม, เส้นใย Celliant ช่วยการทำงานของระบบการไหลเวียนโลหิตและกล้ามเนื้อให้รู้สึกสดชื่นหลังตื่นนอน, เลือกปรับระดับสูง-ต่ำ ของหมอนได้เพียงนำหมอนใบเล็กที่เสริมไว้ด้านในออก และ Antimicrobial Silver Chloride Treatment ที่ช่วยป้องกันแบคทีเรีย เชื้อรา กลิ่นและรอยคราบต่างๆ โดยได้เปิดตัวแบรนด์ DREAMIA “หมอน รุ่น Recovery” พร้อม “ปลอกหมอนกันเปื้อน รุ่น Omniguard” โดยในช่วงเปิดตัวและเพื่อต้อนรับ ‘วันนอนหลับโลก' (World Sleep Day) ได้มอบสิทธิพิเศษด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 2,990 บาท จากราคาปกติ 4,980 บาท เท่านั้น ซึ่งวางจำหน่ายที่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ 31 สาขาทั่วประเทศ หรือช้อปออนไลน์ ที่ www.indexlivingmall.com Line / Facebook และ IG : Dreamia Official รวมทั้งช่องทางแพลตฟอร์มช้อปปิ้งสินค้าออนไลน์ชั้นนำ

แม้ว่าตลาดกลุ่มเครื่องนอนและหมอนเพื่อสุขภาพจะมีจำนวนผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายที่หลากหลาย แต่เรามองว่ายังมีโอกาสและช่องว่างในการทำตลาด โดยเฉพาะผู้บริโภคกลุ่ม Premium Segment และกลุ่ม Health Conscious ที่มีกำลังซื้อสูง ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ซึ่งคาดว่าจะยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้วางแผนงานด้านการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ DREAMIA โดยนอกจากการได้ร่วม Collaboration กับคุณวู้ดดี้เพื่อทำการตลาดร่วมกันแล้ว ยังได้ทุ่มงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคได้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกใช้หมอนที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพการนอน ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดย คาดว่า แบรนด์ DREAMIA จะช่วยผลักดันยอดขายในกลุ่มสินค้าเครื่องนอนให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายวุฒิธร มิลินทจินดา พิธีกรชื่อดังและพันธมิตรทางการตลาดแบรนด์ DREAMIA กล่าวว่า “ความร่วมมือเพื่อสร้างแบรนด์ DREAMIA กับ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ครั้งนี้ มาจากการเล็งเห็นถึงความสำคัญของการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ เพราะร่างกายควรได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่หลังจากการใช้ชีวิตประจำวันทั้งการทำงาน การเดินทาง การมีหมอนที่นอนสบายเพิ่มประสิทธิภาพการนอน จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยทำให้สุขภาพของเราดีขึ้น จากประสบการณ์ตรงของตัวเองและคนรอบข้าง ที่ต่างเจอปัญหาการนอนที่เกิดจากหมอนแตกต่างกันออกไป ทั้งปวดคอบ่าไหล่เรื้อรัง หลับไม่สนิท ซึ่งจากผลสำรวจยังมีคนไทยอีก 19 ล้านคน ที่มีปัญหาเรื่องการนอนซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง เพราะการนอนที่มีคุณภาพเป็นจุดเริ่มต้นของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี การมาร่วมเฟ้นหาหมอนไฮบริด ภายใต้แบรนด์ DREAMIA ที่ผสมผสาน 7 นวัตกรรมจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเราได้ทดลองใช้ และพบว่าได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจทำให้หลับลึก หลับสนิท ทั้งวู้ดดี้และคนรอบตัวที่มีลักษณะการนอนต่างกันไปได้ลอง ซึ่งทุกคนก็ชอบหมด เพราะนอนสบายที่สำคัญสามารถเลือกนอนได้ตามสไตล์ความชอบของแต่ละคน เพราะมีรวมทุกคุณสมบัติไว้ในหมอนใบเดียว ทำให้หลับสบายทุกท่วงท่า จากความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกซื้อหมอนที่ดีช่วยยกระดับการนอนให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น”

กางแผนรุกขยายสาขาในไทย-ต่างประเทศต่อเนื่อง พร้อมต่อยอดความเป็นผู้นำ ปั้นโมเดลธุรกิจใหม่

นางสาวกฤษชนก ได้เปิดเผยเพิ่มเติมถึง ทิศทางการดำเนินธุรกิจของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในปี 2022 ว่า จากแนวโน้มสัญญาณการฟื้นตัวของอสังหาริมทรัพย์และมาตรการต่างๆ ของภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าตลาดที่อยู่อาศัยจะมีดีมานด์เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับความต้องการเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ ของตกแต่งบ้าน เราจึงได้มีแผนงานขยายสาขาในประเทศ 1 สาขา บนทำเลย่านลาดกระบัง ในรูปแบบ Mixed-use ที่มีส่วนพื้นที่ขายสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ ของตกแต่งบ้าน และพื้นที่เช่า ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาส 4 ของปีนี้ ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ได้เตรียมขยายสาขาในรูปแบบการให้สิทธิ์แฟรนไชส์กับพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ บรูไน เวียดนาม และอินโดนีเซีย ราว 5 สาขา ซึ่งอยู่ในระหว่างการหารือความร่วมมือและมองโอกาสในการทำตลาดร่วมกัน นอกจากนี้ยังวางแผน Diversify ไปยังธุรกิจที่มีความ Synergy กับธุรกิจหลัก เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับธุรกิจ หรือขยายธุรกิจที่มองว่ายังมีช่องทางการทำตลาด เพื่อต่อยอดสร้างรายได้เสริมความแข็งแกร่งและตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้านอย่างครบวงจรอีกด้วย โดยปัจจุบันได้ลุยเปิด Korean Supermarket ภายใต้ชื่อ SEOUL U MART รวม 2 สาขาตั้งแต่ปลายปี 2564 ทั้งนี้จากการกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในปี 2022 ภายใต้วิสัยทัศน์ INDEX NEXTPERIENCE 2022 รวมถึงการนำกลยุทธ์ในด้านต่างๆ มาขับเคลื่อนการดำเนินงาน จะสามารถผลักดันยอดขายได้ตามเป้าหมายที่กำหนด โดยตั้งเป้าการเติบโตในปี 2022 ไว้ที่ 10% คาดการณ์ยอดขายรวม 8,200 ล้านบาท

เดินหน้าสร้างความยั่งยืน ด้วยแนวคิด ‘Sustainable Living for Future Lifestyle’

นอกจากแผนงานเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในด้านต่างๆ แล้ว อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืนด้วยแนวคิด “Sustainable Living for Future Lifestyle” ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่คุณค่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้ดำเนินโครงการต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ด้วยการใช้พลังงานทดแทนจากการติดตั้ง Solar Rooftop ของสาขาต่างๆ โดยมีแผนติดตั้ง ครบทุกสาขา (ภายในปี 2570), การนำเทคโนโลยี Customize เฟอร์นิเจอร์ตอบโจทย์ดีไซน์เฉพาะบุคคล และผลิตสินค้าด้วยเทคโนโลยีคำนวณการใช้วัสดุไม้เพื่อการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า, เพิ่มสัดส่วนการดีไซน์สินค้าและเลือกใช้บรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุรีไซเคิล เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้บริโภค รวมทั้งการจัดการขยะและของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ (Waste Management) ด้วยนโยบาย 3Rs Reduce, Reuse and Recycle เช่น การรีไซเคิลโดยนำเศษไม้ปาร์ติเกิ้ล กล่องกระดาษ ฯลฯ (จำหน่ายให้กับบริษัทคู่ค้า) เพื่อนำกลับไปใช้ประโยชน์ใหม่อีกครั้ง, การเข้าร่วมโครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC), สนับสนุนสินค้าหัตถกรรมจากวิสาหกิจชุมชนเข้ามาจำหน่าย, การเปิดบริการสถานีประจุไฟฟ้ารองรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station ), สนับสนุนให้เกิดการจ้างงานผู้สูงอายุ-คนพิการและนักศึกษาจบใหม่ เป็นต้น ซึ่งเราจะคงเดินหน้าสานต่อโครงการต่างๆ และสร้างสรรค์โครงการใหม่ เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป

# จากแผน INDEX NEXTPERIENCE คาดหวังให้เราเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นเบอร์ 1 ธุรกิจ Home Furnishing รวมเรื่องบ้านและการตกแต่งบ้าน ครบ จบในที่เดียว จะช่วยสร้างการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ข้างหน้าได้อย่างแน่นอน” คุณกฤษชนก กล่าว

ที่มา: hooninside

ย้อนกลับ