INDEX LIVING MALL, THAILAND’S NO.1 HOME FURNISHINGS AND DECORATIVE RETAIL CHAIN STORE

นางกนกวรรณรัตน์ ศรีมณีศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายบัญชีและการเงิน และเลขานุการ บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้จากการขายปี 65 เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 8,317 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่คาดเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ และไม่มีการปิดสาขาชั่วคราวเหมือนปี 64

ส่วนรายได้จากค่าเช่า (Rental Income) ก็จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักเช่นกัน โดยเฉพาะจากค่าเช่าสาขาของ COM7 ที่ได้ส่งมอบพื้นที่ไปครบตามสัญญาแล้วเมื่อปลายเดือน ม.ค.65 ทดแทนพื้นที่เพาเวอร์วัน (Power One) ที่ปรับลดลงไป รวมกับค่าเช่าพื้นที่ในส่วนอื่นๆ ที่กลับมาหลังคลายล็อกกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น

ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายในมือ (Backlog) จากงานโครงการรวม 1,000 บาท ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนที่ทำได้ปีละ 700 ล้านบาท อีกทั้งยังมีทีมขายของสาขากว่า 31 แห่งทั่วประเทศไทย รุกขยายงานโครงการขนาดเล็กเพิ่มเติม เช่น หอพัก และโรงแรมขนาดเล็ก เป็นต้น ส่วนยอดขายดีลเลอร์จะกระจายให้ครอบคลุมนอกเหนือจากร้านเฟอร์นิเจอร์

ส่วนการรับจ้างผลิต (OEM) ในต่างประเทศมีการขยายตัวที่ดีมาก และมั่นใจว่า "Younique เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดตามใจคุณ" จะมีรายได้เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก หลังจากปี 64 มีการเติบโตราว 19% พร้อมทั้งตั้งเป้าหาเครือข่ายแฟรนไชส์รายใหม่เพิ่มปีละ 1 ประเทศ และโฟกัสการขยายสาขาแฟรนไชส์เจ้าเก่าให้มากขึ้น ทั้งในเวียดนาม และอินโดนีเซีย รวมทั้งกำลังมีสาขาใหม่ที่บรูไนหลังจากเซ็นสัญญาเมื่อต้นปี 65

นอกจากนี้ บริษัทคาดหวังมีสัดส่วนยอดขายช่องทางออนไลน์ในปี 65 เติบโตเป็นไม่ต่ำกว่า 10% สอดรับกับการเพิ่มรายการสินค้า พันธมิตรคู่ค้าในระบบ และโปรโมชั่นต่างๆ และตั้งเป้าเพิ่มแตะ 20% ภายในปี 67 จากปีก่อนมียอดขายออนไลน์อยู่ที่ 1,000.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.8% ของยอดขายรวม

บริษัทยังวางบลงทุนไว้รวมปีนี้ไว้ที่ 500 ล้านบาท เพื่อใช้เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรในโรงงานผลิต และศูนย์กระจายสินค้า การปรับปรุงสาขาเดิม และเปิดสาขาใหม่ 1 แห่ง คือ สาขาลาดกระบัง ด้วยรูปแบบมิกซ์ยูส (ปล่อยพื้นที่เช่า 50%)

ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/65 โดยยอดขาย 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.65) มีการเติบโตขึ้นมากว่า 10% และน่าจะดีขึ้นต่อเนื่องในเดือน มี.ค.65 สอดคล้องกับการฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภคหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทำให้ยอดขายสาขาเดิมมีการขยายตัวได้ดี รวมไปถึงการปรับโปรโมชั่น ปรับการโชว์สินค้า และปรับหน้าร้านให้ดึงดูดมากขึ้น รวมไปถึงผลบวกจากช็อปดีมีคืนเข้ามากระตุ้นยอดขายบ้าง และต้นทุนด้านพลังงานที่ลดลงหลังติดตั้งโซล่าเซลล์ 18 สาขา และในปี 65 จะติดตั้งเพิ่มอีก 4-5 สาขา

ที่มา ryt9

ย้อนกลับ